
GED หรือ General Education Development
คือระบบการศึกษาเพื่อที่จะสอบเทียบวุฒิชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยหลักสูตรจะได้รับการยอมรับหรือวางมาตรฐานโดยประเศสหรัฐอเมริกา โดย GED นั้น น้องๆจะต้องสอบด้วยกัน 5 วิชาคือ
1. Mathematics
2. Social Studies
3. Science
4. Language Arts, Reading
5. Language Arts, Writing
เมื่อสอบผ่านทั้ง 5 วิชา ทุกวิชามีคะแนนเต็ม 800 ซึ่งน้องๆ จะได้ 450 คะแนนในแต่ละวิชา เพื่อให้ได้คะแนนรวม 2,500 คะแนนขึ้นไปถึงจะจบได้ค่ะ และน้องๆต้องเอาคะแนนไปยื่นที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อที่จะแปลงวุฒิ จะได้ใบประกาศว่าเราจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
จะสามารถสมัครสอบได้ที่ไหน และเปิดสอบช่วงไหนบ้าง
GED จะเปิดสอบทุกเดือน ฉะนั้น นี่คือข้อดีของ GED การเปิดสอบทุกเดือน ทำให้น้องๆ ไม่ต้องวางแผนมากนักว่าน้องๆจะสอบช่วงไหนพร้อมช่วงไหนก็ไม่สอบได้เลย
การวิเคราะห์ภาพรวมของข้อสอบ GED
ข้อสอบ GED เป็นแบบ Multiple choices แต่การสอบทั้ง 5 วิชานั้น ข้อสอบภาษาอังกฤษอยากให้ระวังนิดนึงนะคะเพราะวิชาภาษาอังกฤษ น้องๆ ต้องรู้ศัพท์ แกรมม่า ต้องฝึก ส่วนวิชา Mathematics นั้น น้องๆ ต้องทำแบบฝึกหัด ซึ่งเป็นวิชาที่ไม่ง่ายเลย ถ้าได้ฝึกทำ pass paper ก็ไม่ยากค่ะที่จะสอบผ่าน ส่วนวิชา Social Studies เป็นวิชาที่ต้องอ่านเยอะค่ะ Science ก็เช่นกันอ่านค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นน้องๆ ต้องเผื่อเวลาอ่าน ทำ pass paper 2 วิชานี้ให้ดีค่ะ โดยสรุป 5 วิชานี้เผื่อเวลาไว้เลยค่ะ 3 เดือนเตรียมตัวไว้เลยค่ะ ถ้าน้องๆ เตรียมตัวดีไม่ยากเลยค่ะที่จะสอบผ่าน
ระหว่างGEDกับIGCSEควรเลือกสอบอันไหน
ข้อดีของ GED เป็น Multiple choices จะง่ายกว่า ส่วนIGCSEนั้น ข้อเสียคือเป็นข้อสอบเติมคำ และแสดงวิธีทำ แม้ว่าเนื้อหาจะใกล้เคียงกันมาก ฟังดู GED จะมีข้อดีมากกว่าแต่ข้อดีนี้ก็เป็นจุดอ่อนของ GED เช่นกันค่ะ ทำให้นักเรียนที่สอบ GED ส่วนใหญ่เนื้อหาวิชาอาจจะไม่แข็งนัก ดังนั้นบางมหาวิทยาลัยจึงไม่สามารถนำ GED ไปยื่นเพื่อเข้าศึกษาต่อได้ ฉะนั้นใครที่สอบ GED อยากให้ระวังศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนค่ะว่า มหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาตินั้นรับจริงหรือไม่ ส่วนIGCSEแม้ว่าจะยากกว่าก็จริงแต่ทางมหาวิทยาลัยจะรับ IGCSE มากกว่า เมื่อสอบIGCSE สามารถยื่นได้เกือบทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทย 2 อันนี้จึงมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
คำแนะนำในการสอบGED
หากน้องๆ วางแผนไว้แล้วว่าทางมหาวิทยาลัยรับGEDแน่นอน เตรียมตัวได้เลยค่ะ เตรียมเนื้อหาทั้ง 5 วิชาให้ถูกต้องแม่นยำ ทำข้อสอบเก่าให้ชำนาญแล้วไปสอบผ่านแน่นอน แม้ GED จะเป็นข้อสอบที่ง่ายกว่าแต่ การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะถ้าสอบไม่ผ่านต้องรอถึง 3 เดือนถึงจะสอบใหม่ได้ การเตรียมตัวคือ เตรียมความรู้พื้นฐานให้พอ เตรียมใจในการทำแบบฝึกหัด เพื่อที่จะให้เกิดความมั่นใจที่จะไปสอบ และสุดท้ายนักเรียนที่เลือกสอบ GED จำไว้ว่าต้องสอบผ่านเท่านั้น เพราะถ้าไม่ผ่านต้องรอ3เดือน ซึ่งถึงตอนนั้นน้องๆคงจะลืมหมดแล้ว ฉะนั้นควรเตรียมตัวให้ดีจะดีกว่าค่ะ
IGCSE หรือ International General Certificate of Secondary Educational ถูกจัดทำสำหรับนักเรียน ที่มีอายุระหว่าง 14 – 16 ปี ให้ได้รับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับศึกษาในระดับที่สูงขึ้น อาทิ นำไปใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร AS, A Level, International Baccalaureate (IB) หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย สำหรับประเทศไทยการสอบผ่านหลักสูตร IGCSE และ GCE O Level ผู้สอบสามารถนำผลที่สอบได้ใน 5 รายวิชาที่ได้ไม่ต่ำกว่า C ไปขอเทียบวุฒิการศึกษาและนำเอกสารการเทียบวุฒิยื่นสมัครศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้
หลักสูตรIGCSE เป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ในปัจจุบันมีผู้ศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวกว่า 300,000 คนต่อปีจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก หลักสูตร IGCSEเป็นหลักสูตรที่มีวิชาต่างๆให้ผู้ศึกษาสามารถเลือกเรียนได้โดยหลักสูตร IGCSE นั้นเป็นการเรียนการสอบที่บูรณาการระหว่างความรู้ในแต่ละรายวิชาไปพร้อมกับการฝึกปฎิบัติจากประสบการณ์จริง ซึ่งในการสอบบางวิชา ผู้สอบสามารถเลือกทำข้อสอบวัดความรู้ในเนื้อหาวิชาแบบ Core (พื้นฐาน) หรือแบบ Extended (ขั้นสูง) เพื่อให้สอดคล้องกับความรู้ของผู้สอบที่มีความแตกต่างกัน โดยผู้สอบที่เลือกสอบแบบ Core จะได้เกรด C, D, E, E หรือ G เท่านั้น ในขณะที่ผู้สอบที่เลือกสอบแบบ Extended จะได้เกรดตั้งแต่ A, B, C, D, E, F หรือ G
การสอบ IGCSE นั้นจะถูกจัดขึ้นโดยโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ ส่วนผู้ที่สนใจแต่ไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติข้างต้น สามารถสอบได้โดยสมัครสอบกับ British CouncilThailand ซึ่งใช้แบบทดสอบของ University of Cambridge International Examination (CIE) ในการสอบ
หลักสูตร IGCSE มีรายวิชาให้เลือกสอบจาก 5 กลุ่มวิชาอันประกอบไปด้วย
1. กลุ่มวิชาภาษา (Language)
2. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science)
3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science)
4. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics)
5. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational)
หน่วยงานจัดสอบหลักสูตร IGCSE ในประเทศไทยหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรับสมัครและจัดสอบคือ บริติช เคาน์ซิล (ซอยจุฬาฯ 64 สยามสแควร์ กทม. โทรศัพท์ 02 652 5480-9)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://houseofgriffin.com
หากน้องๆกำลังมองหาติวเตอร์ตัวต่อตัว มั่นใจเลือกเรียนกับจุฬาติวเตอร์อะคาเดมี่ เพราะติวเตอร์ของเราทุกท่านล้วนมีประสบการณ์สอนและเชี่ยวชาญด้านข้อสอบ GED และ IGCSE โดยตรง พี่ๆจะคอยเป็นที่ปรึกษา และช่วยวางแผนการเรียนให้น้องเป็นรายบุคคล และพาน้องๆตะลุยคลังข้อสอบเก่าเพื่อความมั่นใจในการทำข้อสอบ เพราะนอกจากการเรียนของเราที่เข้มข้นแล้ว เรายังนำแนวข้อสอบเหล่านั้นมาสอนน้องเพื่อให้เข้าใจถึงเนื้อหาอย่างแท้จริงอีกด้วย
เราคัดกรองติวเตอร์โดยผ่านการเก็บประวัติการศึกษา คุณวุฒิทางการศึกษา ประสบการณ์สอน และติวเตอร์ทุกท่านผ่านการทำแบบทดสอบทางวิชาการ มีการทดสอบสอน และวัดทัศนคติของผู้สอนทุกคน ผู้ปกครองและน้องจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ติวเตอร์ที่รู้จริง สอนเข้าใจ สามารถถ่ายทอดความรู้ พร้อมเทคนิคที่เหมาะสมกับน้องแต่ละคนได้แน่นอน
หากผู้ปกครองและน้องๆมีข้อสงสัย ต้องการให้ช่วยวางแผนวิชาที่จะสมัครเรียน หรือต้องการคำแนะนำการเรียนพิเศษเพื่อเพิ่มเกรดหรือสอบแข่งขัน ทีมวิชาการยินดีให้คำปรึกษาฟรีตลอด 24 ชม.เลย
ติวเตอร์ของเราสามารถเดินทางไปสอนถึงที่บ้าน โดยอัตราค่าเรียนได้รวมค่าเดินทางพร้อมเอกสารการเรียนแล้วค่ะ หากเทียบกับการเรียนกวดวิชาหรือเรียนกลุ่มใหญ่ๆ ผู้ปกครองก็ไม่ต้องกังวลว่าบุตรหลานจะออกนอกลู่นอกทางไปไม่ถึงกวดวิชาอีกต่อไป ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง ไม่สิ้นเปลืองค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
การเรียนพิเศษตัวต่อตัวของเรากำหนดให้เรียนครั้งละ 2 ชม. ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ และจ่ายค่าเล่าเรียนเป็นครั้งหลังเรียนเสร็จได้เลย ซึ่งแตกต่างกับสถาบันกวดวิชาตรงที่ส่วนใหญ่จะกำหนดให้จ่ายเป็นคอร์ส ซึ่งการเรียนตัวต่อตัวกับเรานั้นจะไม่มีการผูกมัด หากครั้งไหนที่ผู้เรียนอาจจะไม่สบาย ติดธุระอื่นๆ ก็ของดกับผู้สอนของเราได้
เรียนแบบเข้าใจและเข้าถึง พี่ติวเตอร์มีเอกสารการเรียนให้พร้อม และหากน้องต้องการให้สอนเสริมจากหนังสือเรียนก็ย่อมทำได้ ไม่ว่าจะสอนการบ้าน ติวโจทย์ก่อนสอบ เก็งข้อสอบกลางภาค-ปลายภาค น้องๆสามารถแจ้งติวเตอร์ของเราได้ค่ะ พี่ติวเตอร์ทุกคนมีวิธีสอนที่เหมาะกับน้องเป็นรายบุคคล และจะมีการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียนในแต่ละเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
